Samsung Galaxy Note Edge : สรุปข้อมูลสเปค และ ฟีเจอร์ อย่างเป็นทางการ กับสมาร์ทโฟน จอขอบโค้ง สุดหรู


นอกเหนือจาก Samsung Galaxy Note 4 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วนั้น ยังมีสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่น ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งรุ่นที่ว่านั้นก็คือ Samsung Galaxy Note Edge นั่นเอง โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถือว่ามีจุดเด่นที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวตรงที่ มีหน้าจอโค้งลงไปทางด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งช่วยให้หน้าจอมีขนาดที่กว้างขึ้น มีพื้นที่สำหรับควบคุมแอปพลิเคชัน และ ดูข้อความแจ้งเตือนได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เราลองมาดูกันครับว่า Samsung Galaxy Note Edge นั้นจะมาพร้อมกับสเปคที่แรงแค่ไหน และ จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองมาชมกันเลยครับ

สเปคในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Note Edge



- ขนาดตัวเครื่อง 151.3 x 82.4 x 8.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่องเพียง 174 กรัม
- หน้าจอขนาด 5.6 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 (+160) (QHD) แบบ Super AMOLED
- ชิป Snapdragon 805 แบบ Quad-Core ความเร็ว 2.7 GHz
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Smart OIS และ Auto focus
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล (f1.9)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32/64 GB
- รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 64 GB
- รองรับการเชื่อมต่อ 3G, 4G LTE, WiFi, Bluetooth, NFC, IR LED
- ระบบ GPS และ A-GPS ในตัว
- รองรับการใช้งาน สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh พร้อมเทคโนโลยี Fast Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (KitKat)

Samsung Galaxy Note Edge กับดีไซน์ที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัว



ในเรื่องของสเปคนั้นถือว่า Samsung Galaxy Note Edge นั้น มีสเปคแบบเดียวกันกับ Samsung Galaxy Note 4 แต่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จะมีจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอด้านข้าง ที่โค้งลงไปรับกับตัวเครื่อง ซึ่งในส่วนของโค้งนั้น จะมีฟีเจอร์แยกออกมาจากหน้าจอหลัก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมการใช้งาน รวมถึง มีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการแสดง Notification อีกด้วย ส่วนในเรื่องของวัสดุนั้น ขอบตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม เช่นเดียวกันกับ Samsung Galaxy Note 4 รวมถึงฝาหลังยังเป็นแบบ Faux Leather ด้วยเช่นเดียวกัน

หน้าจอด้านข้าง ของ Samsung Galaxy Note Edge ทำอะไรได้บ้าง



คุณสามารถเพิ่มไอค่อนลัด (Shortcut) ของแอปพลิเคชันต่างๆ ลงไปในหน้าจอด้านข้างได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ ขณะที่เครื่องไม่ได้ถูกใช้งาน ในส่วนของขอบตัวเครื่องก็จะสามารถแสดงผล วันที่ เวลา รวมไปถึง สถานะการแจ้งเตือนต่างๆ เช่นข้อความ หรือ อีเมล เป็นต้น


หรือหากเป็นแอปพลิเคชันกล้องถ่ายรูป ปุ่มชัตเตอร์ รวมถึงการตั้งค่าต่างๆ ก็จะถูกย้ายไปอยู่ในส่วนของหน้าจอด้านข้างเช่นเดียวกัน ช่วยให้คุณเห็นบรรยากาศรอบๆ ขณะถ่ายได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ หากคุณเล่นไฟล์วีดีโอ ปุ่มควบคุมต่างๆ เช่น Play, Pause หรือการเลื่อนฉาก ก็จะถูกย้ายไปอยู่ด้านข้าง ไม่เกะกะอีกต่อไป

กล้องดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพ บน Samsung Galaxy Note Edge



เช่นเดียวกันกับ Samsung Galaxy Note 4 สำหรับ Samsung Galaxy Note Edge นั้นมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวขณะถ่ายหรือ OIS ที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงให้ภาพที่มีสีสันสดใส และ สว่างขึ้นกว่าเดิมเช่นเดียวกัน


กล้องดิจิตอลด้านหน้านั้น ก็จะมาพร้อมกับความละเอียดระดับ 3.7 ล้านพิกเซล (f1.9) เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่าย selfie นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ การถ่ายภาพแบบ 120 องศาด้วยกล้องหน้า เพื่อให้คุณถ่ายภาพ wefie ได้สนุกกว่าที่เคย

ปากกา S-Pen บน Samsung Galaxy Note Edge



สำหรับฟีเจอร์ของปากกา S Pen ของ Samsung Galaxy Note Edge นั้นจะเหมือนกันกับ Samsung Galaxy Note 4 ทุกประการ ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่ารุ่นก่อนหน้า (Samsung Galaxy Note 3) ถึง เท่าตัวเลยทีเดียว ช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนเขียนด้วยปากกาจริงๆ มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ Fast Charging บน Samsung Galaxy Note Edge



ฟีเจอร์ Fast Charging นั้นยังคงมีให้ได้ใช้งานกันบน Samsung Galaxy Note Edge เช่นเดียวกัน ซึ่งการชาร์จได้อย่างรวดเร็วนั้น ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่มีเวลาจำกัด หรือต้องการชาร์จในช่วงเวลารีบเร่ง

ราคา และ วันวางจำหน่าย ของ Samsung Galaxy Edge



สำหรับวันที่ รวมถึงราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Note Edge นั้นยังไม่ได้ถูกระบุอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ดี หากมีข้อมูลในส่วนของราคา และ วันที่อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ ทีมงานจะรีบนำข่าวมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง  เครดิต Thaimobilecenter