กลับมาพบกันนะครับ วันนี้ผมพามาแรกจับ ประทับใจ กับ Samsung Galaxy Note Edge รุ่นแรกของนวัตกรรม EDGE ขอบโค้งที่ถอดเอา Galaxy Note กับ Edge มาร่วมกัน กลายเป็นข้อดีหลายๆ ด้าน ซึ่งผมก็เพิ่งได้จับนี่ล่ะ เลยเอาข้อมูลมาแชร์กันเหมือนเคยครับ นับว่า Samsung นี่มาพร้อมกับ generation ใหม่จริงๆ ปีนี้เขามาแรงนะ มาดูสิว่าเจ้า Galaxy Note Edge นี่แจ่มแค่ไหน
หน้าจอระดับโน๊ต ต้องบอกว่าให้ความรู้สึกที่เต็มตา ใช้งานสะดวก หน้าจอแบบ SuperAMOLED HD ด้วยแล้ว หายห่วง ตัวเครื่องแอบใหญ่กว่ามือผม ทำให้ขาดเรื่องการใช้งานมือเดียว
มุม Edge นี่ดูสวยนะ แต่ห้ามตก ไม่งั้นล่ะก็ไม่อยากจะคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต้องระวังตัวเยอะขึ้นเลยล่ะครับ อันนี้ก็สำหรับผมนะ กับรอยที่ผมว่าน่าจะกันยาก แต่ด้วย Gorilla Glass3 ก็ป้องกันรอยขีดข่วนได้ระดับนึง แต่ยังไงก็อย่าลืมติดฟิล์มกันรอยให้ครบนะครับโดยเฉพาะด้าน Edge เพราะถ้าไม่รักษาหน้าจอไว้ล่ะก็ ค่าเปลี่ยนคงแพงมากแน่นอน ดังนั้นสิ่งนี้ก็เรียกว่าเป็นสิ่งเดียวที่เป็นความเสี่ยงเสียตังค์จริงๆ
รอบๆ ด้าน ก็เปลี่ยนเป็นวัสดุโลหะทั้งหมดแล้ว งานนี้อย่างที่บอกว่า generation ใหม่ของแบรนด์ Samsung เป็นอะไรที่โดนใจกว่าสมัยก่อนเยอะ มาก
ด้านหลังเป็นพลาสติก ลายหนังตรงส่วนนี้ผมว่าผมให้คะแนนเต็มเลย เพราะการเปิดฝาหลังในขณะที่การออกแบบเป็นโลหะนี่ ยอม และอาจจะเป็นรุ่นแรกและซีรีส์เดียวของ EDGE ที่เปิดฝาหลังได้ เปิดฝาหลังทำไม แน่นอนว่าเปลี่ยนแบตครับ เพราะว่าซื้อมาเครื่องนึงผมเชื่อว่าใช้งานนานแน่นอน และอาจจะมีเรื่องของการเปลี่ยนแบตในอนาคต ไม่ต้องเข้าศูนย์ ก็หาซื้อแบตมาเปลี่ยนได้เลย (ถ้าเสื่อม) และสามารถเพิ่มเมมได้อีก
กล้องที่ขนาด 16 ล้านพิกเซล ผมว่าก็ไม่ธรรมดา แน่นอนว่าได้อิทธิพลจาก Note 4 มาเต็มๆ กล้องก็นับว่าหายห่วง
สิ่งที่ไม่ต้องห่วงอีกอย่างก็คงเป็นเรื่องการรองรับ 4G ใช้งานได้แน่นอน พร้อมเต็มความเร็ว อันนี้ก็โดน
ด้วยความที่เป็น Galaxy Note ทำให้เรื่องแบตอึดมาก ใช้งานได้สบายๆ ตลอดวัน เป็นซีรีส์ของ samung ที่ทำเรื่องนี้ได้ดีตลอดมาจริงๆ
ฝาหลังที่ยังงอได้ขนาดนี้ อาจจะหาไม่ได้อีกแล้วก็ได้นะ ในซี่รีส์ถัดๆ ไป เปลี่ยนแบตเพิ่มเมมได้ รุ่นสุดท้ายแล้วหรือไม่? อันนี้ก็ไม่รู้หล่ะ แต่ว่าฝาหลังพลาสติกที่เคยกลายป๊อปแป๊กเป็นคำถามในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมากำลังจะหายไป
ระบบสแกนลายนิ้วมือ ก็ยังจัดเต็มให้เหมือนเดิม อันนี้ใช้งานได้แน่นอนอยู่แล้ว และแนะนำ สำหรับความปลอดภัยที่ Galaxy Note Edge มีให้
ส่วนของแอพที่จัดมาให้ ก็ไม่ได้มากมายเหมือนแต่ก่อนแล้ว Samsung Galaxy Note Edge จัดมาให้ใช้งานได้เกือบครบทุกมิติ ผมว่าที่ขาดไปเลยก็คือ แอพ social ที่ไม่ได้ preinstall มาให้เหมือนแต่ก่อน จริงๆ ก็ไม่ได้ยากมากมายอะไร แต่การที่ preinstall มาให้เพื่อความสะดวกไม่ต้องดาวโหลดเพิ่มก็น่าจะดีกว่า? เช่นพวก facebook twitter Instagram พวกนี้ หรือเลิกใช้กันหมดแล้ว? ผมว่ายังขาดอยู่นิดๆ
เรื่องการตั้งค่า มีเรื่องโมชั่นต่างๆ ที่ให้มาครบๆ แต่หลังๆ Samsung ไม่ค่อยได้โปรโมตแล้ว บางทีก็อาจจะลืมกัน แต่ก็มีประโยชน์แน่นอน การพวกการตั้งค่าบน S Pen ก็มีให้เลือกเปิดปิดได้นะ เผื่อบางฟังก์ชั่นไม่ชอบ หรือไม่ได้ใช้ ปิดไว้ก็ดี อันนี้ก็ออกแบบมาให้ปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้งานในแต่ละสไตล์
ส่วน shortcut ให้เลือกเข้าเมนูการตั้งค่าต่างๆ หรือ quick menu นี่จัดมาให้เยอะตามสไตล์ แต่ผมว่าก็ดี เปิดปิดได้สะดวกดี แต่แอบลายตาไปนิด
เรื่องเฟิร์มแวร์ไม่ต้องห่วงว่าอัพเดทล่าสุดแน่นอน แต่ทว่าจะล่าสุดแค่ไหนเมื่อมีของใหม่ออกมา อันนี้ตอบยาก แต่ตัวท้อปขนาดนี้เชื่้อว่าได้ไปต่อแน่ ก็เป็นอีกข้อดีนึงของ Galaxy Note Edge
พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ ถ้ายังไม่พอก็เลือกเพิ่มเมมได้อีก อันนี้นับว่าจัดเต็มอยู่เหมือนกัน แต่ในราคาระดับนี้หากไม่จัดเต็มให้ก็ไม่รู้ว่าไงนะ ฮ่ะๆ
โหมดนี้ ผมว่ายังไงก็สำคัญ ถึงแม้ว่าจะอึดแค่ไหน แต่ทว่าหากลืมชาร์จสักวันผมว่าเหตุการณ์แบตใกล้หมดอาจจะเกิดขึ้นได้ โหมดนี้ก็ยังช่วยติดต่อสื่อสารได้น่า ประหยัดพลังงานสูงสุดเนี่ย มันดีจริง อาจจะไม่ต้องถึงขนาด 24 ชั่วโมงตามที่เคยโฆษณากันไว้ในรุ่นก่อนๆ แค่ช่วยยืดเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็พอละล่ะครับสำหรับผมนะ เพราะคนเมืองยังไงก็ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ก็คงหาที่ชาร์จได้ หรือไม่ก็คงมี powerbank ติดตัวกันอยู่แล้วล่ะ
เรื่องคีย์บอร์ดนี่ ภาษาอังกฤษให้ 10 เต็ม แต่ภาษาไทย เรียงตัวอักษรดีแล้ว แต่ทว่าแป้นเล็กไปนิด ขนาดผมมือเล็กๆ ก็ยังรู้สึกว่าไม่มั่นใจว่ากดถูกคีย์หรือเปล่า บางทีก็พิมพ์ผิด ไม่รู้ว่าใครนิ้วใหญ่ๆ จะเจอปัญหาในการคีย์หรือไม่นะ น่าจะปรับให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดนึง แต่อย่างว่า ภาษาไทยมีตัวอักษรเยอะ ก็อาจจะทำให้เรื่องการดีไซน์ลำบาก แต่น่าจะมีวิธีสิน่า => ดาวโหลดคีย์บอร์ดตัวอื่นมาใช้?
โหมดกล้องก็มีให้เลือกเพียบ ปรับค่าตั้งค่า ได้ภาพแจ่มๆ เยอะเลย ยอมรับเลยว่าตระกูลโน๊ตใหม่ กล้องดีกว่าเดิมเยอะเลย ประทับใจมั่กๆ
สำหรับแอพที่ออกแบบมานี่ แจ่มมาก เช่น Flipboard นี่ลงตัวอย่างแรง เลือกหมวดหมู่จากขอบได้เลย อันนี้โดนโพดๆ
สามารถแสดง notification ต่างๆ ได้ ก็สะดวกดีนะ
หลากหลายฟังก์ชั่น ที่เรียกใช้งานได้ง่าย และสะดวกเมื่อมาอยู่บนขอบหน้าจอ Edge ซึ่ง Galaxy Note Edge ถือว่าตอบโจทย์คนทำงานได้อยางดีเลยทีเดียว
Edge กับโหมดกล้อง ที่ปรับปุ่มชัทเตอร์อยู่ด้านบนขอบ อันนี้แอบกดลำบากไปนิด ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่นัก
สุดท้ายคงเป็นเรื่องของปากกา S Pen ที่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครมาเทียบได้ Galaxy Note Edge ก็เ่ช่นเดียวกัน เป็น Smartphone หน้าจอขอบโค้งที่สามารถใช้ปากกาได้ตัวแรก และตัวเดียวในโลก ณ ตอนนี้ ฟังก์ชั่นก็มากมาย ใช้งานได้เพียบ ถือว่าใครที่ใช้งานอยู่นี่เป็นรุ่นเดียวในระดับโลกเลยนะ
สรุปกันนิดนึง
สำหรับ Samsung Galaxy Note Edge ที่มาพร้อมกับราคาค่าตัว 28,900 บาท นับว่าเป็นราคาที่แพงเอาเรื่อง คิดง่ายๆ คือเพิ่มราคามา 3,000 บาทจาก Galaxy Note 4 เพื่อเอาขอบโค้ง และการใช้งานเพิ่มขึ้น ก็คาดว่าน่าจะคุ้ม? อันนี้ก็แล้วแต่คน ส่วนที่ชอบก็คงเป็นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ Samsung เป็นผู้นำอยู่เสมอๆ โดยเรื่องสเปค ผมคงไม่พูดถึงมากเพราะรุ่นใหญ่สเปคจัดมาเต็ม เรื่องการใช้งาน ความลื่นนี่ยกให้อยู่แล้ว อีกทั้งฟีเจอร์ต่างๆ ก็ครบเครื่องอีกต่างหาก จุดอ่อนในซีรีส์ Note ก็คือเรื่องกล้อง แต่ว่าตั้งแต่ Galaxy Note 4 ที่ผ่านมาก็ถูกพัฒนาไปมาก ปัจจุบันเรื่องกล้อง เรียกว่าใช้งานเป็นหลักเลยก็ว่าได้ สำหรับคนยุคโซเชียลอย่างเรา ข้อที่ไม่ชชอบก็มีหลายอย่าง เช่น การดูแลรักษา นอกจากขอบที่เป็นโลหะจะเป็นรอยได้ง่ายแล้ว ก็มีเรื่องขอบโค้ง ที่บางทีไม่ระวังก็อาจจะตกแตกได้ ใครที่ใช้ควรหากเคสมาปกป้องเท่าที่ทำได้ และการประยุกต์ใชช้ขอบโค้ง เชื่อว่าจะเห็นในเวอร์ชั่นถัดๆ ไปของ Galaxy Note Edge แน่นอน
เครดิต www.pdamobiz.com