เมื่อวันที่ 17 ต.ค.โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพความทรงจำ ที่น่าประทับใจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งหนึ่งทรงเสด็จปฏิบัติพระราชภารกิจในต่างจังหวัด ซึ่งในครั้งนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จเยี่ยมราษฏรที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร และที่น่าประทับใจนั่นก็คือ มีผู้ชายสูงอายุคนหนึ่งได้แบกพระบาทสมเด็จพระเจ้าพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นขี่หลัง โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เดินอยู่ข้างๆนอกจากนี้ยังมีภาพน่าประทับใจอีก หลายภาพ เช่น ภาพที่ทรงนั่งประทับบนพื้นเรือน ฝาไม้ไผ่ขัดแตะ และมีบุคคลในชุดกากีท่านนึง กำลังยื่นจอกตะไล ไปสัมผัสกับจอกตะไลอีกใบ
โดยล่าสุดเจ้าของเพจ”อภิชาต ชินแก้ว” ได้ออกมาให้ข้อมูลกับชาวโลกออนไลน์ ว่า ภาพองค์พ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงนั่งประทับบนพื้นเรือน ฝาไม้ไผ่ขัดแตะ และมีบุคคลในชุดกากีท่านนึง กำลังยื่นจอกตะไล ไปสัมผัสกับจอกตะไลอีกใบ ในมือของพระองค์ท่าน กำลังเป็นที่สนใจของผู้คนทั่วประเทศ…ซึ่งผมเองก็อยากรู้เหลือเกิน ว่าบุคคลผู้นี้คือใคร ที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้า องค์พ่อหลวงอย่างใกล้ชิด…ถือเป็นบุญวาสนา เป็นศิริมงคลอย่างล้นเหลือ…
“ผมได้รวบรวมสืบค้นข้อมูลอย่างคร่าวๆ ภาพสามภาพนี้ ถ่ายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๒ เมื่อคราวพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เพื่อทรงเยี่ยมราษฏรชาวไทยภูเขา ที่บ้านห้วยผักไผ่ ต.ม่อนปิน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่. บุคคลในภาพผู้นี้ น่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้านชาวมูเซอ ชื่อ”แสนคำลือ” ที่โชว์ความแข็งแรงของสุขภาพร่างกาย โดยการให้องค์พ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงขี่หลัง และเดินขึ้นหมู่บ้านที่มีความลาดชัน…
ช่วงต่อจากนี้ ผมขออนุญาตยกเอา ความประทับใจผ่านความทรงจำของ”ม.จ.ภีศเดช รัชนี” (ประธานมูลนิธิโครงการหลวง)ซึ่ง ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ “ชนแก้วสุรา”มาถ่ายทอดให้ได้รับทราบครับ “ต่อจากนั้น ผู้ใหญ่แสนคำลือ ได้เชิญท่านเสด็จไปแอ่วบ้าน พอไปถึงบ้าน เขาก็เอาที่นอนมาปูให้ท่านประทับ แล้วเอาเหล้าใส่ ถ้วยตะไลเล็กๆ มาให้ท่านเสวย แต่แก้วมันสกปรก มีสีดำๆ ผม(ม.จ.ภีศเดช)ก็ทูลท่านว่า ทำเหมือนเสวยแล้วส่งมาพระราชทาน ผม แต่ท่านก็เสวยเองหมดเลย ท่านบอกว่า เหล้ามันแรง ฆ่าเชื้อโรคหมดแล้ว”…
“แสนคำลือ”ผู้ใหญ่บ้านชาวมูเซอ ยังบอกพระองค์อีกว่า การที่เขาแข็งแรงเพราะกินเหล้าแบบนี้ โดยมีสูตรพิเศษใส่เขากวางอ่อน ใส่พริกไทย ๓ เม็ด กระดูกเสือใส่ไปด้วย…
ผู้ใหญ่แสนคำลือ แกมีภรรยาวัยสาวคราวลูก ซึ่งแกคงผสมสุราสูตรพิเศษดื่มนี่เอง จึงมีสุขภาพแข็งแรง อย่างที่ปรากฏในภาพ และจากการที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาในครั้งนี้ ได้ทรงตั้งโครงการหลวงส่วนพระองค์ เพื่อใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ทั้งไม้ผล ผัก และดอกไม้เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขา ในการนำพืชเหล่านี้ มาเพาะ ปลูกเป็นอาชีพ แทนการปลูก”ฝิ่น” ซึ่งต่อมา ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”…
ผู้ใหญ่แสนคำลือ แกมีภรรยาวัยสาวคราวลูก ซึ่งแกคงผสมสุราสูตรพิเศษดื่มนี่เอง จึงมีสุขภาพแข็งแรง อย่างที่ปรากฏในภาพ และจากการที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาในครั้งนี้ ได้ทรงตั้งโครงการหลวงส่วนพระองค์ เพื่อใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ทั้งไม้ผล ผัก และดอกไม้เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขา ในการนำพืชเหล่านี้ มาเพาะ ปลูกเป็นอาชีพ แทนการปลูก”ฝิ่น” ซึ่งต่อมา ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”…
หมายเหตุ: ผมจะสอบถามเพิ่มเติม ไปยัง ที่ทำการอบต.ม่อนปิน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ช่วยยืนยันตัวตน ของผู้ใหญ่บ้าน”เเสนคำลือ”ท่านนี้ ซึ่งหากมีลูกหลาน ก็คงถือเป็นความภาคภูมิใจแก่วงศ์ตระกูล อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้มีโอกาสรับเสด็จพระองค์ท่าน อย่างใกล้ชิด…