พระกระยาหารของพระราชา ในความคิดของคนทั่วไปอาจจะต้องดูหรูหราราคาแพง แต่สำหรับพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของคนไทยเช่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชนั้น พระองค์ทรงโปรดพระกระยาหารที่แสนจะเรียบง่าย ที่คนไทยส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ทราบว่าพระองค์ทรงโปรดเสวยอะไรบ้าง
คำโบร่ำโบราณที่กล่าวว่า "กินเพื่ออยู่" คงมิได้มีไว้ใช้แต่ประชาชนคนธรรมดา ไม่เว้นแม้แต่พระราชาของไทยอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เอง พระองค์ท่านก็ได้นำหลักคำสอนนี้มาใช้ด้วย ในแต่ละวันที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อชาวไทยอย่างเหน็ดเหนื่อย พอถึงช่วงเวลาที่พระองค์ได้เสวยพระกระยาหารนั้น จะมีเมนูไหนที่พระองค์ทรงโปรด โดยอาจารย์วันดี ณ สงขลา อาจารย์ประจำวิทยาลัยในวังหญิง เจ้าของหนังสือตำนานอาหารสามแผ่นดินได้เล่าไว้อย่างน่าสนใจ
อาหารทรงโปรดในรัชกาลที่ 9 นั้น หลักๆ พระองค์ทรงโปรดผักทุกชนิด มาทำอาหาร เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา และจะใส่ผักให้มาก ส่วนเนื้อสัตว์จะน้อย โดยจะเสวยกับข้าวกล้องเป็นหลัก
ส่วนเมนูอื่นๆ ซึ่งโปรดเป็นพิเศษก็จะมีความหลากหลาย สำหรับเครื่องกลางวัน อาทิ ซุปอาสาเรน (ซุปใสใส่ไข่), สปาเก็ตตี้มิลานเนส, แกงจืดเซ่งจี้, ผัดไก่เล่าปี่, ปู่เค็มต้มกะทิ, หลนปลากุเลา, ผัดเผ็ดปลาดุกทอดฟู และของหวาน เช่น กล้วยหักมุกเชื่อม, ไอศกรีม หรือผลไม้
ในยามดึก เมื่อเสด็จกลับจากพระราชกรณียกิจ จะมีเครื่องว่างที่มหาดเล็กได้จัดตั้งถวายให้ หรือเป็นเพียงบะหมี่ จะใส่หน้าหมูแดง หน้าเป็ด หน้าปู ก็ได้ แต่ทั้งนี้จะมีปลาอยู่ชนิดหนึ่งที่พระองค์ไม่เสวยก็คือ ปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเลี้ยงไว้ในสระว่ายน้ำของพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง