หลังจากที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา OPPO ได้ขนสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปโฉมใหม่บุกประเทศไทยด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ OPPO R9s และ OPPO R9s Plus ซึ่งชูจุดเด่นด้วยกล้องหลัง Dual-PDAF ความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล ซึ่งล่าสุดทาง OPPO ก็เอาใจผู้ใช้งานที่ชื่นชอบมือถือรุ่นเล็กเน้นการเซลฟี่บ้าง ด้วยการส่ง OPPO A57 สมาร์ทโฟนจ้าของฉายา Unstoppable Selfies ด้วยจุดเด่นอย่างกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
สำหรับคุณสมบัติที่อยู่ภายใน OPPO A57 ถือว่าจัดวางมาให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.2 นิ้ว, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 435, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB, กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ปุ่มโฮมแบบ Solid-State พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow โดยทาง OPPO เคาะราคาวางจำหน่ายเอาไว้ที่ 7,990 บาท
แต่ OPPO A57 จะมีความคุ้มค่าน่าใช้งานเพียงใด วันนี้ทีมงาน Techmoblog จะพาทุกท่านไปรับชมผ่านรีวิวแบบเจาะลึกกันครับ
สเปก OPPO A57ตัวเครื่องมีขนาด 149.1 x 72.9 x 7.655 มม. น้ำหนักรวม 147 กรัม
หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (HD) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 4 สามารถสัมผัสได้แม้ใส่ถุงมือ หรือนิ้วเปียกน้ำ
ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 435 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.4GHz
หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505
หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB
หน่วยความจำภายในความจุ 32GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ความจุสูงสุด 256GB
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมโหมด Beautify 4.0
กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF และไฟแฟลช LED
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้ปุ่มโฮมแบบ Solid-State
รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด Dual Nano SIM
รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 4G LTE
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n
รองรับการเชื่อมต่อ OTG
แบตเตอรี่ความจุ 2900mAh
ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย ColorOS 3.0
รีวิว OPPO A57 : ดีไซน์ และการออกแบบ
เริ่มต้นที่แพ็กเกจกันก่อน OPPO A57 มาพร้อมกับกล่องสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งที่บริเวณด้านหน้ามีการพิมพ์ดีไซน์ของตัวเครื่อง พร้อมกับสโลแกน Unstoppalble Selfies ที่สื่อถึงฟีเจอร์กล้องหน้าซึ่งเป็นจุดขายของรุ่นนี้โดยเฉพาะ
ด้านหลัง บ่งบอกสเปกเบื้องต้นของตัวเครื่องให้ทราบ ไม่ว่าจะเป็น กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, หน่วยความจำ RAM 3GB + ROM 32GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และชิปเซ็ตประมวลผลจากค่าย Qualcomm ระดับ Octa-Core Processor
เปิดกล่องออกมาจะพบกับ OPPO A57 ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยที่ด้านในมีอุปกรณ์เสริมมาให้แบบครบครัน ประกอบด้วย สาย microUSB สำหรับชาร์จแบต และโอนถ่ายข้อมูล, เข็มจิ้มซิม, หูฟังแบบ Earbuds, Adapter ชาร์จไฟ, เคสใส และคู่มือการใช้งาน
OPPO A57 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD พร้อมครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 4 ซึ่งทาง OPPO ระบุว่า สามารถทัชได้แม้ใส่ถุงมือ หรือนิ้วเปียกน้ำ นอกจากนี้ ยังได้ติดฟิล์มกันรอยมาให้จากโรงงาน ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องไปเดินหาให้เมื่อย
ด้านบนของตัวเครื่องประกอบด้วย กล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ
ที่ด้านล่างประกอบด้วยปุ่มควบคุมแบบสัมผัส Capacitive และปุ่มโฮมแบบ Solid-State ที่จะไม่มีการยุบตัวลงเมื่อกด และสามารถสแกนนิ้วได้อย่างฉับไว รวมทั้งยังสแกนได้แม้นิ้วมือจะเปียกน้ำ
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานสามารถสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อคในขณะที่หน้าจอดับได้ด้วย
ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียงติดตั้งเอาไว้ ส่วนที่ด้านขวามีปุ่ม Power เปิด-ปิด เครื่อง และถาดใส่ซิมการ์ด
สำหรับถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Triple Slot SIM โดยรองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM ด้วยกันทั้ง 2 ช่อง และมีช่องสำหรับใส่ microSD Card แยกออกมาอีกต่างหาก ทำให้เราสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ไปพร้อมๆ กับเพิ่มหน่วยความจำ microSD Card ได้นั่นเอง
ที่ด้านบนไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ ส่วนที่ด้านล่าง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5มม. , ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB และลำโพงหลักของตัวเครื่อง
OPPO A57 ถูกผลิตด้วยวัสดุประเภทโลหะ ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว (Unibody) ให้ความรู้สึกเรียบหรู โดยที่ด้านบนติดตั้งกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
OPPO A57 รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย UI ที่พัฒนาโดย OPPO อย่าง ColorOS 3.0 ซึ่งมีจุดเด่นด้านความเร็ว, ความลื่นไหล และการประหยัดพลังงาน
หน้า UI ถูกออกแบบมาให้ใช้งานสะดวก ด้วยการจัดเรียงไอคอนแอปพลิเคชันทั้งหมดเอาไว้ที่หน้าโฮมสกรีน ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์เพื่อจัดเรียงให้เป็นระเบียบได้
ลากนิ้วจากบนลงล่างจะพบกับ Toggle Switch หรือคีย์ลัดสำหรับตั้งค่าภายในตัวเครื่อง หากปัดไปด้านขวาจะพบกับ Notification Center สำหรับแสดงการแจ้งเตือนทั้งหมด
กดปุ่ม Recent Apps จะพบกับหน้าแสดงแอปพลิเคชันที่กำลังทำงานอยู่ ซึ่งผู้ใช้สามารถปิดใช้งานแอปพลิเคชันจากจุดนี้ได้ นอกจากนี้ ยังแสดงปริมาณ RAM ที่ถูกใช้ไปด้วย
Theme Store แหล่งรวมธีม และวอลเปเปอร์สำหรับสมาร์ทโฟน OPPO ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้ามาดาวน์โหลดได้ฟรี
แอปพลิเคชัน Google ถูกติดตั้งมาให้แบบครบถ้วน ทั้ง Chome, Gmail, Google Maps หรือ Google Keep ส่วนแอปพลิเคชันพื้นฐานก็มีเช่นเดียวกัน เช่น แอปบันทึกเสียง, เข็มทิศ, WPS Office และวิทยุ FM
นอกจากนี้ OPPO A57 ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันเด่นอย่าง Security Center ซึ่งผู้ใช้สามารถเคลียร์ RAM และไฟล์ Cache ได้อย่างง่ายๆ รวมทั้ง ยังมีฟีเจอร์สแกนไวรัสติดตั้งมาให้ในตัว
ด้านลูกเล่นควบคุมแบบ Gesture ก็มีให้เลือกใช้งานเช่นเดียวกัน เช่น แตะที่หน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกให้สว่าง, วาดตัวอักษร O ขณะหน้าจอดับเพื่อเข้าสู่เมนูกล้อง หรือลาก 3 นิ้วจากบนลงล่างเพื่อแคปเจอร์ภาพหน้าจอ
ฟีเจอร์ช่วยกรองแสงสีฟ้า เพื่อช่วยถนอมสายตาก็มีให้ใช้งานด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับความเข้มได้ 3 ระดับ
อย่างที่กล่าวไปด้านต้นว่า OPPO A57 รองรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเข้าเครื่อง แต่ต้องเข้าไปตั้งค่าเสียก่อน โดยผู้ใช้งานสามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 นิ้ว พร้อมกับตั้งคีย์ลัดเปิดแอปพลิเคชันสำหรับแต่ละนิ้วได้
OPPO A57 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผลรุ่นเล็ก Snapdragon 435 พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505 และหน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB ซึ่งเมื่อลองทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย AnTuTu สามารถทำคะแนนได้ประมาณ 45926 คะแนน
ทดสอบด้วย Geekbench 4 ทำคะแนนประมวลผลแบบ Single-Core ได้ประมาณ 666 คะแนน และทำคะแนนการประมวลผลแบบ Multi-Core ได้ประมาณ 2847 คะแนน
ทดสอบเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนตัวเครื่องด้วย Sensor Box พบว่า มีเซ็นเซอร์ Accelerometer, Light, Orientation, Proximity, Gyroscope, Sound และ Magnetic OPPO A57 ส่วนระบบสัมผัสแบบ Multi-touch รองรับทั้งหมด 10 จุด
แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก แต่ก็ยังสามารถเล่นเกม 3D อย่าง RoV หรือ Heroes Arena ได้อย่างลื่นไหล ไม่ปรากฏอาการกระตุกให้เห็น ยกเว้นเป็นเกมกราฟิกหนักๆ อย่าง Dynasty Warrior Unleashed ที่จะพบอาการหน่วงบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าทำได้อย่างน่าประทับใจครับ
OPPO A57 มาพร้อมกับจุดเด่นอย่างกล้องหน้าความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมโหมด Beautify 4.0 สำหรับปรับสีผิว และใบหน้าของผู้ใช้งานให้มีความสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีโหมด Bokeh สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ มาเป็นหนึ่งในลูกเล่นของรุ่นนี้ด้วย
ด้านกล้องหลังมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ CMOS จาก Sony พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD ส่วนโหมดการถ่ายภาพ ยังติดตั้งมาให้แบบครบถ้วนเหมือนกับรุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โหมด Ultra HD, โหมดโปร และโหมดการถ่ายภาพแบบ GIF
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า แบบไม่ปรับแต่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากหล้องหน้า พร้อมปรับโหมด Beautify ที่ระดับ 4
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า พร้อมปรับโหมด Beautify ที่ระดับ 7
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า พร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh)
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย พร้อมเปิดไฟแฟลชที่หน้าจอ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
OPPO A57 แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กเมื่อเทียบกับ OPPO R9s หรือ R9s Plus แต่ยังคงจัดเต็มในเรื่องของกล้องหน้าความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมโหมด Beautify เหมือนกับรุ่นพี่ ในราคาที่ไม่ถึงหมื่นเท่านั้น ส่วนกล้องหลังก็มาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 ทำให้สามารถตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหามือถือที่มีความโดดเด่นด้านกล้อง แต่มีงบประมาณที่ไม่สูงมากนัก
ในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่อง ก็ถูกออกแบบให้ความรู้สึกเรียบหรู ด้วยบอดี้แบบโลหะทั้งชิ้น ซึ่งสามารถหยิบจับได้ถนัดมือ พร้อมสเปกแบบครบเครื่องด้วย หน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 4, ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 435, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB, หน่วยความจำภายในความจุ 32GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมสูงสุด 256GB, แบตเตอรี่ความจุ 2900mAh และการทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย ColorOS 3.0 ที่มีจุดเด่นด้าน UI ที่ใช้งานง่าย และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
โดยทาง OPPO ได้เคาะราคาวางจำหน่าย OPPO A57 ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ 7,990 บาท และมีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสีด้วยกัน ประกอบด้วย สีทอง Gold และ สีทองกุชมพู Rose Gold ซึ่งหากใครที่สนใจ สามารถไปทดลองเล่นได้ที่ร้านค้า และตัวแทนจำหน่าย OPPO ใกล้บ้านครับ
จุดเด่นของ OPPO A57หน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 4
หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB
หน่วยความจำภายในความจุ 32GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริม microSD Card ความจุสูงสุด 256GB
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมโหมด Beautify 4.0
กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด พร้อมใส่หน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card
ปุ่มโฮมแบบ Solid-State พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถสแกนได้แม้นิ้วเปียกน้ำ
บอดี้ที่ผลิตด้วยวัสดุประเภทโลหะ แบบไร้รอยต่อ
ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallowจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
หน้าจอแสดงผลยังไม่ใช่ความละเอียดระดับ Full HD
ไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
ติดตามข่าวสาร
เช็คราคามือถือวันนี้: http://iconnect-review.blogspot.com/2016/08/260859_67.html
Facebook: https://www.facebook.com/iconnectlife/
IG: https://www.instagram.com/iconnectlife
Twitter: https://twitter.com/iconnectlifes
G+: https://plus.google.com/+iconnectlife
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UC74zk-qH8L7Va49erIcnuiA
สอบถามเช็คราคามือถือทุกแบรนด์ดัง
1.ฝ่ายขาย Line ID : ICONNECTION
2.ฝ่ายขาย แอดไลน์ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ 096-683-9184
เช็คราคามือถือวันนี้: http://iconnect-review.blogspot.com/2016/08/260859_67.html
Facebook: https://www.facebook.com/iconnectlife/
IG: https://www.instagram.com/iconnectlife
Twitter: https://twitter.com/iconnectlifes
G+: https://plus.google.com/+iconnectlife
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UC74zk-qH8L7Va49erIcnuiA
สอบถามเช็คราคามือถือทุกแบรนด์ดัง
1.ฝ่ายขาย Line ID : ICONNECTION
2.ฝ่ายขาย แอดไลน์ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ 096-683-9184