iPhone 12 สรุปสเปก | ฟีเจอร์ใหม่ | ราคาล่าสุด ก่อนเปิดตัววันที่ 14 ต.ค. นี้! มีอะไรใหม่บ้าง? มาดูกัน!
Apple ได้ประกาศส่งหมายเชิญเข้าร่วมงาน Apple Event แบบออนไลน์ ในวันที่ 13 ตุลาคม ปี 2020 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม 2020 เวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยแม้ว่าภายในหมายเชิญจะไม่ได้เปิดเผยให้ทราบแบบแน่ชัดว่าทาง Apple จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใดให้เห็นบ้าง แต่หากสังเกตุจากคำโปรยว่า "Hi, Speed" ก็น่าจะเดากันได้ไม่ยากว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ Apple กำลังจะเปิดตัวให้เห็น จะต้องมีความเร็วแรงเป็นพิเศษ ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก iPhone 12 ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Apple A14 นั่นเอง
iPhone 12 จะมีกี่รุ่น?
สำหรับไอโฟน 12 ที่จะเปิดตัวในปี 2020 คาดว่าจะมีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
- iPhone 12 Mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
หากข้อมูลด้านต้นเป็นจริงก็ถือว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ Apple ตัดสินใจเปิดตัว iPhone ให้เห็นมากกว่า 2 รุ่นย่อย โดยคาดว่าทาง Apple ต้องการที่จะเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า เพื่อขยายกลุ่มตลาดผู้ใช้ไอโฟนให้กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้ระดับเริ่มต้นที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ไอโฟนเป็นรุ่นแรก, ผู้ที่ชื่นชอบไอโฟนจอเล็กพกพาง่าย ไปจนถึงผู้ใช้งานระดับโปรที่เพิ่งอัปเกรดมาจากไอโฟนรุ่นก่อน เป็นต้น
iPhone 12 หน้าจอขนาดเท่าไหร่?
สำหรับ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นจะมีการปรับไปใช้หน้าจอแสดงผลแบบ OLED เหมือนกันทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้สามารถแสดงสีสันได้อย่างสดใส และใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Dark Mode เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตา และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น แต่ในรุ่น Pro และ Pro Max มีรายงานว่า จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ ProMotion 120Hz เหมือนกับที่ใช้บน iPad Pro เพื่อช่วยให้สามารถแสดงผลได้อย่างลื่นไหล รวมทั้งจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ XDR เพื่อช่วยให้สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยขนาดหน้าจอของ iPhone 12 แต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้
- iPhone 12 Mini - หน้าจอแสดงผลขนาด 5.4 นิ้ว
- iPhone 12 - หน้าจอแสดงผลขนาด 6.1 นิ้ว
- iPhone 12 Pro - หน้าจอแสดงผลขนาด 6.1 นิ้ว
- iPhone 12 Pro Max - หน้าจอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้ว
iPhone 12 สเปก, RAM, ความจุ
iPhone 12 ทั้งสี่รุ่นจะมีการอัปเกรดไปใช้ชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่อย่าง Apple A14 Bionic ซึ่งเป็นชิปเซ็ตประมวลผลที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 5 นาโนเมตร จากเดิมในรุ่น A13 Bionic ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร โดยข้อดีของสถาปัตยกรรมของชิปเซ็ตที่เล็กลง ตามหลักแล้วจะช่วยประหยัดการใช้งานพลังมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ ทำให้ชิปเซ็ตประมวลผลได้รวดเร็วขึ้นตามไปด้วย ทางด้านหน่วยความจำ RAM นั้น iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 6GB ส่วนรุ่นปกติทั้ง iPhone 12 Mini และ iPhone 12 จะมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB เท่านั้น
ส่วนทางด้านหน่วยความจำภายใน หรือความจุ ตามรายงานล่าสุดระบุว่า iPhone 12 จะมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในเริ่มต้นที่ 128GB เท่ากันทุกรุ่น ซึ่งหมายความว่าในปี 2020 เราอาจไม่ได้เห็นไอโฟนที่มีความจุ 64GB อีกต่อไปแล้ว
ความจุแบตเตอรี่ของ iPhone 12
ทางด้านแบตเตอรี่มีรายงานออกมาเช่นกันว่า iPhone 12 จะได้รับการเพิ่มความจุแบตเตอรี่ให้มากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานที่ยาวนาน และรองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่าย 5G โดยความจุแบตเตอรี่ของ iPhone 12 แต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้
- iPhone 12 Mini จอ 5.4 นิ้ว - แบตเตอรี่ขนาด 2227mAh
- iPhone 12 จอ 6.1 นิ้ว - แบตเตอรี่ขนาด 2775mAh
- iPhone 12 Pro จอ 6.1 นิ้ว - แบตเตอรี่ขนาด 2775mAh
- iPhone 12 Pro Max จอ 6.7 - แบตเตอรี่ขนาด 3687mAh
ความจุแบตเตอรี่ของ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่น iPhone 11 Pro มีข้อมูลว่า จะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมราว 1 ชั่วโมง ส่วนในรุ่น iPhone 12 Mini แม้ว่าจะมีขนาดจอที่เล็กลง แต่ในส่วนของการใช้งานนั้นทาง PineLeaks แหล่งข่าวหลุดรายหนึ่งระบุว่า iPhone 12 Mini จะมีแบตที่ใช้งานได้น้อยกว่า iPhone 11 นอกจากนี้ iPhone 12 ทั้งสี่รุ่นอาจไม่แถมอแดปเตอร์ชาร์จภายในกล่องอีกต่อไป ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการลดต้นทุนของ Apple เพื่อช่วยไม่ให้ iPhone 12 5G มีราคาวางจำหน่ายที่สูงจนเกินไป และ Apple อาจจะมีการวางจำหน่ายอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 20W แยกต่างหาก
กล้องถ่ายภาพของ iPhone 12
ด้านการถ่ายภาพคาดว่า iPhone 12 จะได้รับการอัปเกรดด้านจำนวนกล้องให้มากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น Pro ที่จะมาพร้อมกับกล้องหลังจำนวน 4 ตัว จากเดิมในรุ่น iPhone 11 Pro ที่มีกล้องหลังเพียง 3 ตัว โดยกล้องที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ก็คือ กล้อง LiDAR Scanner สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้นได้อย่างแม่นยำ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ รวมถึงการทำฟีเจอร์ AR ส่วนใน iPhone 12 Mini รุ่นเริ่มต้นจะปรับไปใช้ระบบกล้องหลัง 3 ตัว จากเดิมใน iPhone 11 ที่มีกล้องหลังจำนวน 2 ตัว โดยกล้องที่ถูกเพิ่มเข้ามานั้นคาดว่าจะเป็นกล้อง Telephoto สำหรับช่วยซูมภาพในระยะไกลได้อย่างคมชัด
ส่วนสเปกด้านอื่นๆ ของกล้อง iPhone 12 มีรายงานเพิ่มเติมออกมาด้วยว่า กล้อง Ultra Wide จะมีค่ารูรับแสง (Aperture) ที่กว้างขึ้น ช่วยให้การถ่ายภาพมุมกว้างในที่แสงน้อยทำได้ดีขึ้น รวมทั้งยังมาพร้อมกับความสามารถด้านการถ่ายภาพ Macro ที่โฟกัสวัตถุได้ใกล้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ยังมาพร้อมกับระบบซูม Digital และ Optical ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยในครั้งนี้ iphone 12 จะมีการรวมเฟรมภาพหลายๆ เฟรมเข้าด้วยกันด้วยอัลกอริทึม Deep Fusion และ Smart HDR 3 เพื่อให้ภาพซูมที่ออกมามีความคมชัดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบซูมภาพแบบ Hybrid ซึ่งเป็นการนำเอาภาพที่ได้จากการซูมแบบ Digital และ Optical มาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้ซูมภาพได้ไกล และชัดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทางด้านความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ แม้จะมีรายงานว่า iPhone 12 จะยังคงใช้กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากับรุ่นก่อน แต่มีข้อมูลว่า ขนาดของเซ็นเซอร์จะใหญ่ขึ้น เพื่อช่วยให้กล้องสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับภาพถ่าย รวมถึงรับแสงได้ดีมากขึ้นตามไปด้วย
ส่วนด้านการถ่ายวิดีโอ มีรายงานว่า iPhone 12 จะรองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K เท่าเดิม แต่สามารถถ่ายได้ที่เฟรมเรท 120fps และ 240fps รวมทั้งยังมีข้อมูลด้วยว่า ในขณะนี้ Apple มีการพัฒนาโหมดการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait Video) อยู่ในขณะนี้ด้วย แต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าฟีเจอร์ดังกล่าวจะถูกเปิดให้ใช้ตั้งแต่แกะกล่อง iPhone 12 หรือไม่
ระบบยืนยันตัวตน
ทางด้านระบบยืนยันตัวตน มีรายงานว่า iPhone 12 จะยังคงใช้ระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ (Face ID) เหมือนกันกับ iPhone X ไปจนถึง iPhone 11 Series แต่มีรายงานว่า Apple จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Dynamic Zoning Algorithm เข้าไปด้วย โดยจะช่วยให้ระบบสแกนใบหน้าแบบ Face ID มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และยังส่งผลให้รอยบากมีความกว้างที่น้อยลงด้วย แต่อาจมีความสูงเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย
ราคาวางจำหน่ายของ iPhone 12
สำหรับราคาของ iPhone 12 ตามข้อมูลล่าสุดที่หลุดออกมาจากแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ มีรายละเอียดดังนี้
- iPhone 12 Mini จอ 5.4 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 649 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20,300 บาท
- iPhone 12 จอ 6.1 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 749 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23,500 บาท
- iPhone 12 Pro จอ 6.1 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31,300 บาท
- iPhone 12 Pro Max จอ 6.7 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 34,400 บาท
อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านราคาวางจำหน่ายยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ซึ่งบางกระแสข่าวก็ระบุว่า iPhone 12 อาจมีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่สูงขึ้นที่ 749 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23,400 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนของระบบ 5G นั่นเอง
iPhone 12 จะเข้าไทยตอนไหน?
แม้จะยังไม่มีข้อมูลรายงานเกี่ยวกับกำหนดการวางจำหน่าย iPhone 12 ในประเทศไทยถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่หากพิจารณาจากการเปิดตัว iPhone SE 2020 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวในช่วงกลางเดือนเมษายน ก่อนที่จะเปิดให้พรีออเดอร์ในประเทศไทยวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า iPhone 12 จะมีการวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม ครับ
iPhone 12 ราคาไทย ประมาณเท่าไหร่?
หากเราอ้างอิงจากราคาเปิดตัว iPhone 11 ในประเทศไทย และสหรัฐฯ พบว่า iPhone 11 รุ่นเริ่มต้นความจุ 64GB ที่ขายในประเทศไทย จะมีราคาที่สูงกว่าสหรัฐฯ ประมาณ 3,000 บาท หรือคิดเป็น 12.82% ส่วนในรุ่น Pro ราคาขายเริ่มต้นในไทย จะสูงกว่าสหรัฐฯ ราว 4,600 บาท หรือคิดเป็น 13.69% ซึ่งหากเรานำส่วนต่างตรงนี้ไปประเมินราคาขายของ iPhone 12 ในประเทศไทยโดยอ้างอิงราคาสหรัฐฯ ที่หลุดออกมา จะได้ดังนี้
- iPhone 12 Mini - ราคาคาดการณ์ในไทย เริ่มต้น 22,900 บาท
- iPhone 12 - ราคาคาดการณ์ในไทย เริ่มต้น 26,900 บาท
- iPhone 12 Pro - ราคาคาดการณ์ในไทย เริ่มต้น 35,900 บาท
- iPhone 12 Pro Max - ราคาคาดการณ์ในไทย เริ่มต้น 39,900 บาท
อย่างไรก็ดี ข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 12 ด้านต้นเป็นเพียงข้อมูลที่รวบรวมมาจากข่าวล่าสุดเท่าที่มีอยู่เท่านั้น และยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ต้องจับตาดูกันดีๆ ครับ