สาวประเภทสองปรี๊ดแตก!! กินอาหารทะเล เช็คบิลแทบช็อก 5,400 บาท ซ้ำโดนด่า “กะเทยเรื่องมาก”!!
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2560 โลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Alinda Elina ได้โพสต์ข้อความ ขณะที่ไปรับประทานร้านอาหารย่านประตูน้ำ กับเพื่อนชาวต่างชาติรวมทั้งหมด 4 คน เมื่อรับประทานเสร็จก็ได้ชำระเงินตามปกติ แต่พบว่าเมนูอาหารที่สั่งมีราคาสูงเกินความเป็นจริง
โดยเมนูปูผัดผงกะหรี่ ราคา 1,680 บาท,ปลากะพงย่างเกลือ ราคา 1,280 บาท,ผัดไทยวุ้นเส้นกุ้งสด ราคา 300 บาท,ต้มยำกุ้ง ราคา 500 บาท,น้ำแตงโม 2 แก้ว ราคา 240 บาท,น้ำส้ม 2 แก้ว ราคา 300 บาท พร้อมค่าบริการเซอร์วิสชาร์จอีก 800 บาท รวมค่าอาหารทั้งสิ้น 5,400 บาท จึงเรียกผู้จัดการร้านมาชี้แจงรายละเอียด ก่อนที่พนักงานร้านคนหนึ่งจะพูดขึ้นมาว่า...“พวกกะเทยปัญหาเยอะ เรื่องมาก”!!!
ซึ่งล่าสุด นายอริญฎา เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อคืนวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ตนและเพื่อนชาวต่างชาติได้รับคำชักชวนจากคนขับรถแท็กซี่ให้ไปรับประทานอาหารร้านดังกล่าว เมื่อมาถึงก็พบว่ามีรถแท็กซี่จอดรอลูกค้าชาวต่างชาติรับประทานอาหารอยู่อีก 4 คัน จึงตั้งข้อสังเกตว่ารถแท็กซี่กลุ่มนี้ได้รับผลประโยชน์จากการพาลูกค้าชาวต่างชาติมารับประทานอาหารร้านดังกล่าวหรือไม่
ในขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ก็รู้สึกแปลกใจ เมื่อกลุ่มลูกค้าชาวเวียดนามโวยวายและไม่พอใจกับราคาอาหาร หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จจึงเรียกพนักงานมาเก็บเงิน พบว่าค่าอาหารทั้งหมด 5 อย่าง น้ำอีก 4 แก้ว และค่าเซอร์วิสชาร์จ เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 5,400 บาท
จึงเรียกผู้จัดการร้านเข้ามาชี้แจงแต่ก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่แน่ชัด ก่อนที่ผู้จัดการร้านจะพาไปดูวัตถุดิบของร้านในการประกอบอาหาร หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงพนักงานร้านตะโกนว่า “พวกกะเทยปัญหาเยอะ เรื่องมาก” จึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก
นายอริญฎา เผยว่า “ค่าอาหารของทางร้านมีราคาแพงเกินจริงมาก แต่วัตถุดิบที่ได้รับไม่สมกับราคาเลย ตัวอย่างเช่นเมนูปูผัดผงกะหรี่ ในจานมีเพียงปูตัวเล็กเพียงหนึ่งตัว หรือเมนูต้มยำกุ้งที่ใช้กุ้งแชบ๊วยมาทำ หลายรายการไม่ได้ระบุราคาบนเมนู
หนูพยายามจะถามเขาว่าทำไมเมนูจึงมีราคาแพงกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากผู้จัดการร้านแต่อย่างใด มีเพียงคำด่าทอจากพนักงานร้าน บอกพวกหนูว่าเป็นพวกกะเทยปัญหาเยอะเท่านั้น หนูยอมรับว่าโกรธมาก นี่เป็นสิ่งที่หนูได้รับจากค่าบริการเซอร์วิสชาร์จหรือ
และแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะถูกแชร์กันในโลกออนไลน์อย่างมาก แต่เธอยืนยันว่าจะไม่แจ้งความดำเนินคดี หรือไปฟ้องร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพราะไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้
แต่แค่ต้องการเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เท่านั้นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่เสื่อมเสียภาพลักษณ์ต่อประเทศไทยมาก เหมือนเรากำลังเอาเปรียบเพื่อหลอกขายชาวต่างชาติ อีกทั้งเพศที่สามยังโดนดูถูกเหยียดหยามอีกด้วย